ต้องมีความรู้ในตัวสินค้าทุกตัวที่ขายสู่ผู้บริโภค เช่น สรรพคุณ ส่วนประกอบ วิธีใช้ ต้องมีความเข้าใจมากพอ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการขายใก้แก่ลูกค้าอย่างถูกต้องและครบถ้วน

การขายสินค้าทุดครั้งต้องแน่ในว่าสินค้าที่ขายนั้นมีพร้อมขาย ณ เวลานั้น ไม่จำเป็นต้องมากมาย แต่ต้องเพียงพอ

เมื่อมีความรู้ความเข้าใจในตัวสินค้าเป็นอย่างดีแล้ว นักขายก็จะมีความเข้าใจได้โดยอัตโนมัติ ว่าสินค้าจะขายนั้น ต้องไปขายให้แก่ผู้บริโภคหรือกลุ่มผู้ซื้อประเภทไหน ซึ่งสินค้ากับเป้าหมายจะต้องมีความตรงกันถึงจะบรรลุเป้าหมายของการขายได้

การเสนอขายโดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า ซึ่งเป็นเทคนิคที่ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดุดใจ และนำไปสู่ความสนใจ แล้วจึงเร่งเร้าเพื่อให้เกิดความต้องการซื้อสินค้า นักขายควรพยายามสร้างความต้องการให้เกิดขึ้นกับลูกค้า โดยรับรู้ถึงปัญหาของเขาและหาวิธีการแก้ไขในเวลาเดียวกัน

ในระหว่างการขาย ลูกค้าอาจมีข้อโต้แย้งต่างๆ เช่น ไม่พอใจราคา ยังไม่ถูกใจ สินค้ามีข้อบกพร่อง ผู้ขายจะต้องรักษาบรรยากาศในการพูดคุยให้สถานะการเป็นบวกเสมอ และค่อยๆชี้แจงหรือตอบข้อสงสัยอย่างใจเย็น อดทนและมั่นใจ โดยใช้คำพูดที่สุภาพและเป็นธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์หรือคำที่ลูกค้าอาจฟังแล้วไม่เข้าใจ

เป็นการสรุปเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจในการซื้อสินค้า โดยจะเสนอและเน้นถึงประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับและสร้างความมั่นใจ ในตัวผลิตภัณฑ์ว่าคุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าได้จ่ายไป

เมื่อมีการซื้อสินค้าแล้ว นักขายจะต้องให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ รวมถึงการไปเยี่ยมเยียนลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าพึงพอใจ เป็นการรักษาสัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้า นำพาไปสู่การซื้อซ้ำในอนาคต

เมื่อนักขายทำการปิดการขายได้แล้ว จะต้องเขียนรายงานการขายด้วย เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้ทราบถึงความก้าวหน้า และเป็นการง่ายต่อการประเมินผลการขาย หรือบริการหลังการขาย