สกัดจาก อัลฟัลฟ่า “ราชาแห่งอาหารทั้งมวล” ในระบบฟาร์มที่ได้รับการปลูกอย่างถูกวิธี นำเข้าไปสู่กระบวนการสกัดเอา “คลอโรฟิลล์” โดยกรรมวิธีการสกัดเย็นถึง 15 ขั้นตอน เพื่อให้มั่นใจว่าสะอาดปลอดภัยและคงไว้ซึ่งสารอาหารอย่างครบถ้วน หลังจากนั้นวัตถุดิบที่ได้ จะถูกส่งไปวิเคราะห์คุณภาพยังห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ต้องมีความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่า 95% ซึ่งตามมาตรฐานองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา FDA ถึงจะเรียกว่า “คอลโรฟิลล์บริสุทธิ์” ทุกขั้นตอนผลิตจะได้รับการตรวจสอบคุณภาพอย่างละเอียดเสมอ ในหน่วยผลิตที่ได้มาตรฐาน ISO9002 และขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง อย 50-1-04352-5-0004
คอลโรฟิลล์บริสุทธิ์ ด้วยกรรมวิธีสกัดเย็นจากอัลฟัลฟ่า สะอาดและปลอดภัย
กรดอะมิโนที่จำเป็นร่างกายสร้างเองไม่ได้ เช่น ไอโซลิวซีน ลิวซีน ไลซีน ฯลฯ
วิตามินเอ, วิตามินบี 6 บี12, วิตามินอี, แคลเซียม, ไลเปส, อาเมเลส, โคกูเลส
เสริมภูมิคุ้มกันโรคร้ายอย่างมะเร็ง ลดความดันโลหิต ขับสารพิษ ฯลฯ
ค้นคว้าและวิจัยโดยผู้เชี่ยวชาญ
เป็นพืชที่ให้กรดอะมิโนที่จำเป็นครบทั้ง 8 ชนิด คือ ไอโซลิวซีน, ลิวซีน, ไลซีน, เมไธโอนีน, พีนิลอะลานีน, เทรโอนีน, ทริปโตฟาน และวาลีน กรดอะมิโนเหล่านี้ ร่างกายสร้างเองไม่ได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างเซลล์ใหม่ ในอัลฟัลฟ่ายังมี วิตามินเอ, วิตามินบี 6, วิตามินบี 12, วิตามินดี, วิตามินอี, และวิตามินเค รวมทั้งยังมีเกลือแร่อีก เช่น ฟอสฟอรัล, โปแตสเซียม, แคลเซียม, สังกะสี, เชเลเนียม และแมกเนเซียม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเอ็กไซม์หลักอีก 8 ชนิด คือ ไลเปส, อาเมเลส, โคกูเลส, อีมูลซิน, อินเวอร์เตส, เปอร์อ๊อกซิเดส, เพคติเนส, และโปรตีส มนุษย์เราต้องการเอ็นไซม์มากกว่า 3,000 ชนิด แต่ร่างกายเรานั้นสร้างได้ไม่กี่ชนิด นอกนั้นต้องบริโภคจากสารอาหารสดประจำวัน ประเภทพืชผักผลไม้ต่างๆ แต่ถ้าหากอาหารเหล่านั้นผ่านความร้อนเกินกว่า 55 องศาเซลเซียสขึ้นไป เอ็นไซม์ต่างๆ ก็จะเสื่อมหรือเปลี่ยนรูปไป ซึ่งร่างกายก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ร่างกายต้องการเอ็นไซม์เพื่อช่วยปรับสมดุลของระบบภูมิคุ้มกันต่างๆ
ด้วยสูตรโครงสร้างของโมเลกุลที่ใกล้เคียงกันกับเม็ดเลือดแดง ต่างกันเฉพาะตรงกลางที่คลอโรฟิลล์ มีแมกนีเซียม ซึ่งเม็ดเลือดแดงมีเหล็ก จึงทำให้สีต่างกัน คือ คลอโรฟิลล์มีสีเขียว และเม็ดเลือดมีสีแดง ทำให้คลอโรฟิลล์ถูกเรียกว่า “เลือดของพืช” ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์มากมาย สรุปตรงกันออกมาว่า คลอโรฟิลล์สามารถกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดงได้ จนผู้ทำการวิจัยได้รับรางวัลโนเบล ไปแล้วถึง 2 ท่านด้วยกัน คือ ดร.ริชาร์ด วินสเตตเตอร์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยออสเตรียในปี ค.ศ.1915 และ ดร.ฮันส์ ฟิชเชอร์ นายแพทย์ชาวเยอรมัน ในปี ค.ศ.1930 ผู้ซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างเม็ดเลือดแดงและคลอโรฟิลล์ ในบางเงื่อนไขสามารถแทนที่ศูนย์กลางของคลอโรฟิลล์ด้วยเหล็ก จากอาหารธรรมชาติบางประเภท จะทำให้มีอัตราการเพิ่มของเม็ดเลือดแดงดีขึ้น ทั้งนี้แมกนีเซียมที่หลุดออกไปจาก ศูนย์กลางโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ ก็จะทำหน้าที่นำพาแคลเซียม เข้าไปอุดรูพรุนของกระดูกต่างๆ ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น
รับรองด้วยเอกสารทางการแพทย์
ทานเพื่อดูแลสุขภาพทั่วไป ผสมหัวเชื้อคลอโรฟิลล์ 10 ซีซี ต่อ น้ำ 1.5 ลิตร ครั้งละ 1 แก้ว ดื่มเช้า - ก่อนนอน (สามารถดื่มแทนน้ำเปล่าระหว่างวันได้)